วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

10 ตัวอย่างการจัดห้องนอน

Style ที่ 1 : เป็นแนวโทนห้องสีเขียว สดใส สบายตา


Style ที่ 2 : เป็นแนวแบบเข้ม สุขุม แอบเท่ห์ ในแนวที่ 2 จะเหมาะกับคุณผู้ชาย


Style ที่ 3 : แบบนี้เป็นแนวร่วมสมัย เรียบง่าย แต่เก๋ในแบบที่ 3 เราจะสามารถพบเห็นได้บ่อย ตามสถานที่ที่มีการ
จัดงานตกแต่งบ้าน ตามบูธที่ขายสินค้าประเภทเครื่องนอน


Style ที่ 4 : แนวโรแมนติก หรูหราแบบที่ 4 คงไม่ค่อยแปลกตานัก เพราะหากใครที่เดินทางบ่อย
มีโอกาสได้ไปพักตามโรงแรมตั้งแต่ระดับ 3 ดาวเป็นต้นไป น่าจะ
มีโอกาสได้เห็นการจัดห้องนอนในแบบนี้ได้บ่อยค่ะ


Style ที่ 5 : เป็นการจัดห้องในแบบญี่ปุ่น ในแบบที่ 5 นี้ จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้ห้องดูแคบ
เพราะมีเตียง และเน้นแบบสบาย-สบาย ไม่เน้นฟู่ฟ่า หรูหรา


Style ที่ 6 : แนวอาร์ต บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัว การจัดห้องในแนวนี้ จะสามารถบอกความชอบในแบบที่เป็น
เอกลักษณ์ของเจ้าของได้เป็นอย่างดี เป็นแนวศิลปะ + ความทันสมัย
ซึ่งสามารถจัดได้หลายแบบ ตามลักษณะความชอบของแต่ละบุคคล


Style ที่ 7 : แบบเรียบง่าย คลาสสิค และมีเสน่ห์ การจัดห้องสไตร์นี้ จะเหมาะกับสุภาพบุรุษที่นิยมความเรียบง่าย
แต่แฝงไว้ซึ่งความมีเสน่ห์ เป็นการจัดการที่ลงตัวโดยใช้เฉดสีเป็น
ตัวแบ่งความเหมาะสม


Style ที่ 8 : แบบหวานหวาน แต่แฝงความมีเสน่ห์ การจัดห้องในแบบนี้ ผู้จัดจะใช้สีที่ให้ความรู้สึกสบายตา
แต่จะใช้เฟอร์นิเจอร์และแสงของไฟเป็นตัวเบสให้สีของห้อง
ดูมัว-มัว เพื่อเพิ่มเสน่ห์ของห้องให้ดูคลาสสิคมากขึ้น


Style ที่ 9 : แบบเรียบแต่เก๋ ดูสะอาดสะอ้านตา ในแบบนี้ หากใครมีโอกาสได้ชมภาพยนต์ของต่างประเทศบ่อย-บ่อย
เราก็มักจะเห็นว่า การจัดห้องแบบนี้ แทบจะเรียกได้ว่า เป็นวัฒนธรรม
ของคนทางฝั่งยุโรปกันเลยทีเดียว


Style ที่ 10 : แบบเน้นความโปร่ง โล่ง สบาย ในแบบนี้ จะเน้นการจัดห้องในแบบให้มีการถ่ายเทอากาศ
ภายในห้องได้ตลอดเวลา และเหมาะมากค่ะ สำหรับคนที่ไม่
นิยมนอนตื่นสาย เพราะแสงแดงยามเช้า จะส่องกระทบเข้า
ในห้องนอน จนคุณไม่คิดที่จะนอนต่อทีเดียว การจัดห้อง
ในแบบนี้ หากเป็นช่วงหน้าร้อน จะทำให้ค่าไฟฟ้าที่บ้านแพงลิบ
เพราะขนาดคุณติดผ้าม่าน ก็ยังไม่ช่วยค่าไฟฟ้าคุณสักเท่าไหร่..


ที่มา : http://www.pantown.com/board.php?id=14856&area=4&name=board12&topic=116&action=view

การจัดห้องนอนตามฮวงจุ้ย

เมื่อก้าวขึ้นมาสู่ชั้นบน ห้องแรกที่ต้องใส่ใจคือ ห้องนอนของเจ้าบ้าน ซึ่งต้องการพลังหล่อเลี้ยงมากที่สุด ห้องนอนของเจ้าบ้านนั้น ควรมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนของสมาชิกคนอื่นๆ มีประตูห้องที่โดดเด่น สง่างามกว่าห้องอื่นๆ ต้องเป็นประตูแรกที่สะดุดสายตา แต่เดิมประตูห้องชั้นบนทั้งสามห้อง ใช้สีขาวล้วนทั้งหมดซึ่งกลมกลืนไปกับผนัง จนเรียกได้ว่าขาวโพลน (ลักษณะเช่นนี้เป็นภาวะเกินสมดุล เป็นอัปมงคล เปรียบเหมือนการไว้ทุกข์ให้กับตนเอง) ดังนั้นอาจารย์จึงตกแต่งประตูห้องด้วยเหรียญจีนโบราณ เพื่อความกลมกลืนกับการตกแต่งบ้านชั้นล่าง โดยห้องเจ้าบ้านใช้เหรียญจีนขนาดใหญ่กว่าและจำนวนมากกว่าห้องอื่นๆ ซึ่งใช้เพียงหนึ่งเหรียญเท่านั้น บ่งบอกความแตกต่างและพลังในการดึงดูดอย่างชัดเจน


           โดยปกติแล้วการใช้พื้นขาวเขียนสีทองนั้น ถือเป็นอัปมงคลเพราะมีความคล้ายคลึงกับการตกแต่งโลงศพ แต่การใช้เหรียญจีนโบราณสีทองนั้น แตกต่างที่รูปลักษณ์ของเหรียญและตัวอักษร/ภาพมงคลที่อยู่บนตัวเหรียญ มีนัยถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและแทนคำอำนวยอวยพร อีกทั้งเหรียญที่ติดอยู่หน้าประตูนี้ได้ผ่านพิธีล้างและประจุพลังแล้ว
           เส้นทางเดินไปสู่ห้องนอนหรือหมิงถางหน้าประตูนั้น ก็ต้องโล่ง สะอาด สว่าง สามารถเดินไปสู่ห้องได้สะดวก ไม่มีสิ่งกีดขวาง เพราะหากชั้นบนเปรียบได้กับชีวิตส่วนตัวแล้ว ห้องนอน ก็เป็นตัวแทนของชีวิตคู่ สุขภาพและเงินเก็บสำหรับชีวิตส่วนตัว ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่เส้นทางหน้าห้องนอน ก็เพื่อให้ชีวิตส่วนตัว หรือความสัมพันธ์ของสามีภรรยาราบรื่นไร้อุปสรรค สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ มีความมั่นคงทางการเงินหรือมีเงินรองรัง มีเงินเหลือมากพอที่จะเก็บหอมรอมริบเพื่อความสุขสบายในชีวิตส่วนตัวนั่นเอง
           เพื่อเสริมด้านการเงินให้แข็งแกร่ง ผนังตรงข้ามประตูห้องนอน (ผนังในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโถงชั้นบน) จึงได้ติดภาพน้ำห้าธาตุหรือทะเลสาบแห่งเมืองลูเซินไว้ เพื่อจำลองลักษณะฮวงจุ้ยใน
          อุดมคติที่กล่าวว่า น้ำหน้า ภูเขาหลัง คือใช้ภาพน้ำตัวแทนแห่งกระแสการเงิน และเป็นการเงินแห่งยุค 8 (เนื่องจากทิศที่ติดภาพเป็นทิศแห่งสายน้ำยุค 8) ให้ไหลเข้าสู่ ห้องนอนเจ้าบ้าน
         การติดภาพน้ำที่ดี อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องเป็นทิศทางที่สามารถติดภาพน้ำได้ ไม่ติดภาพสูงกว่าระดับสายตา ไม่ติดภาพประจันบันไดหรือช่องเปิด มิฉะนั้นจะเสียหายมากกว่าได้รับประโยชน์
        เมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ก็ควรมีพื้นที่ว่างเพื่อเป็นหมิงถางในของห้องนอนอย่างน้อยหนึ่งช่วงความสูงของประตู ไม่มีสิ่งกีดขวางตั้งประจันประตู ไม่ว่าจะเป็นผนังห้องน้ำ กระจกโต๊ะเครื่องแป้ง กระจกตู้เสื้อผ้า หรือแม้แต่จอโทรทัศน์ที่สะท้อนเงาได้อย่างชัดเจน เพราะจะเป็นตัวผลักพลังออกจากห้อง รวมทั้งประตูห้องนอนที่ตั้งประจันหน้าต่าง ประตูห้องน้ำ ประตูระเบียง ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ห้องนอนอยู่ในสภาวะขาดพลัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าบ้านคือ ชีวิตส่วนตัวไม่สมบูรณ์ สุขภาพอ่อนแอ เหนื่อยเพลียง่าย ชีวิตครอบครัวมีปัญหา ไม่มีเวลาพักผ่อน ท้ายที่สุดปัญหาเหล่านี้จะนำไปสู่ความไร้ชีวิตชีวา ไร้พลังความคิด ไร้วิสัยทัศน์

     ห้องนอนที่ดีควรจะเป็นสี่เหลี่ยม ไม่มีลักษณะเป็นรูปตัวแอล (L) หรือรูปทรงไม่สมมาตร มีส่วนหยักส่วนยื่น ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือบนฝ้าเพดาน เช่น การทำฝ้าหลุม จะเป็นอัปมงคล ส่งผลต่อสุขภาพเจ้าของห้อง แตกต่างกันออกไปตามลักษณะความเสียหาย
    สำหรับบ้าน 333 นี้ ห้องนอนเจ้าบ้าน ถูกจัดวางแบ่งสัดส่วนไว้อย่างลงตัว เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบโถงห้องนอนสำหรับพักผ่อน นั่งเล่น อ่านหนังสือ ด้านขวามือเป็นห้องนอน (ไม่มีประตูกั้น เป็นข้อห้ามในทางฮวงจุ้ยไม่ให้มีประตูหลายบานในห้องนอน) ส่วนด้านซ้ายมือเป็นห้องแต่งตัว (walk-in closet) และ ห้องน้ำ (เดินผ่านห้องแต่งตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ)
    

             ห้องนอนที่เป็นมงคลต้องมีสภาวะหยินมากกว่าสภาวะหยาง เพราะเป็นสถานที่ที่เราต้องพักผ่อนร่างกาย ต้องการความสงบทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้สมองและจิตใจได้ว่างเว้นจากความสับสนวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ทำให้ร่างกายมีเวลาที่จะฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเอง ดังนั้นการตกแต่งใดๆ ต้องคำนึงถึงสมดุลหยินหยางไว้เสมอ ยกตัวอย่างเช่น การติดแขวนโคมไฟคริสตัลในห้องนอน เป็นข้อต้องห้ามในวิชาพื้นฐานในของฮวงจุ้ยเต๋าหมวกดำ เพราะจะทำให้เกิดภาวะความเป็นหยางมากเกินไปในห้องนอน ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าของห้องเกิดอาการ "หยางเกิน" เช่น นอนไม่หลับ มีอาการตื่นตัว ใจร้อน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เป็นต้น สุดท้ายก็จะจบลงที่การป่วยเป็นโรคประสาท หรือโรคความดันสูงและอื่นๆ อีกมากมาย หรือแม้แต่การตกแต่งห้องด้วยสีโทนร้อน หรือภาพศิลปะแบบ Abstract ภาพที่มีความรุนแรงหรือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไฟ เช่น ติดภาพรถแข่งเต็มห้องในขณะเดียวกันการตกแต่งห้องที่เป็น "หยิน" มากเกินไป เช่น ตกแต่งห้องด้วยสีดำ/น้ำเงิน เป็นหลัก หรือห้องมืดทึบทึมเกินไป ห้องที่ขาวโพลนเกินไป หรือการตกแต่งด้วยภาพที่โดดเดี่ยว เศร้าสร้อย ก็ส่งผลเสียเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นไปในทางตรงกันข้าม เช่น เกิดอาการป่วยกระเสาะกระแสะ เฉื่อยเนือย เลื่อนลอย ไม่กระตือรือร้น ซึมเศร้า เป็นต้น
จากตัวอย่างข้างต้น ความสมดุลในห้องนอนจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่เราทุกคนต้องใส่ใจ หากมีอาการ "หยางเกิน" หรือ "หยินเกิน" ก็ลองปรับสมดุลในห้องนอนไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการดังกล่าวจะหายไป

              การเลือกภาพที่จะใช้ตกแต่งบนผนังที่ตรงข้ามประตูห้องใดๆ ควรใช้ภาพเชิงลึก เช่นที่บ้านนี้เลือกติดภาพถ่ายทุ่งทานตะวัน ซึ่งเป็นภาพที่มีเส้นนำสายตาให้มองลึกเข้าไปในภาพ เพื่อให้ภาพมีมิติที่สามารถนำพลังเข้าห้องได้ ทั้งยังเป็นภาพสวนดอกไม้ที่มีภูเขารูปลักษณ์สวยงามเป็นฉากหลัง เพื่อเป็นเคล็ดเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตำแหน่งประธานบ้าน (ศึกษาตำแหน่งต่างๆ ได้จากชั้นเรียน)
กรณีที่ในห้องมีหน้าต่างบานยาวเกือบจรดพื้นจะก่อให้เกิดภาวะพลังรั่วไหล โดยเฉพาะถ้าตั้งประจันประตู แม้ว่าโถงห้องนอนนี้หน้าต่างจะตั้งเยื้องประตูห้อง แต่แสงสว่างจากภายนอกก็ยังคงมีอิทธิพลมากพอที่จะดึงพลังให้รั่วไหล สูญเสียออกไปก่อนจะเดินเข้าสู่ห้องที่เตียงตั้งอยู่
ดังนั้นจึงมีการตั้งแจกันดอกไม้ทรงสูงเพื่อสกัดพลัง วางโคมไฟไว้ที่มุมห้องเพื่อแก้มุมอับ ป้องกันภาวะพลังตายและแสงจากโคมไฟก็จะช่วยยับยั้งพลังมิให้รั่วไหลออกไปภายนอกด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นตำแหน่งที่ตั้งประจันรับประตูห้องนอน ยังใช้ของประดับตกแต่งที่มีความเป็นมงคลทั้งสิ้น

ที่มา : ryt9.com

เคล็ดลับการจัดห้องนอนเพื่อสุขสมหวังในความรัก


*ควร เลือกเตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้นเป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลกับสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ
       *เช็กสภาพแสงภายในห้อง ซึ่งไม่ควรจะแรงเกินไป (หยาง) หรือสลัวเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย..เพราะจะทำให้คุณและคู่รักรู้สึกหงุดหงิด ได้
       *ถ้าห้องนอนของคุณมีหน้าต่างกระจกใส ที่สามารถชมวิวสวยๆนอกบ้านได้ ไม่ควรจะเลื่อนเตียงเข้าไปติดกับหน้าต่างกระจก หรือวางใกล้กันมากเกินไป แม้ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด พลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเค้ามีเรื่องราวถึงกับต้องเลิกกัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ
       *ใต้เตียงนอน ไม่ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปเก็บไว้ โดยเฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด ! แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ คุณไม่มีที่ไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีเรื่องวีนใส่กันได้บ่อยๆอีกด้วย
       * หน้าต่างห้องนอน ควรใช้ม่านบังตามากกว่ามู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก
       * หาแจกันดอกไม้ มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือจะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถางควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน

* ครีเอทหัวเตียงและผนังด้านหัวเตียงให้สวยงาม และถ้าเตียงของคุณตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น
       * อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์ก็อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน
       * ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะเป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดีล่ะก็..จะมีเรื่องให้เดือดร้อนใจใน ครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านแสนสุขของคุณก็จะลดน้อยลงไป
       * พื้นของห้องนอน ควรเป็นพื้นเรียบ มีลวดลายสบายตา หากเป็นพื้นสีเรียบๆได้จะดีที่สุด อย่าเลือกพรมปูห้องนอนที่ลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวายได้
       * อย่าใช้ผ้าห่มสีขาว เพราะหากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน..แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีโทนสีอื่นดีกว่า
       * หากคุณกับหวานใจวีนแตกใส่กันอยู่บ่อยๆ อาจเป็นไปได้ว่าปลายเตียงคุณหันไปทางประตู พลังงานทางลบจะเข้ามาทางนั้น แก้ไขง่ายๆ..ด้วยการแขวนกระจกบานเล็กๆไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป
       * หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทอง หรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงที่ประณีตละเมียดละไมขึ้น
       * ถ้าช่วงไหนคุณอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อน จนพาลโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นขึ้น
       * อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หา หินควอตส์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง
       * อย่าติดไฟที่ทำให้เกิดแสงส่องเป็นลำ มาที่เตียงของคุณอย่างเด็ดขาด เพราะความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ให้ย้ายเตียงพ้นลำแสงนั้น ถ้าทำไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง
       * หากคุณกำลังกังวลว่าเขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทางไม่วอกแวกไปที่ อื่น
       * หากเตียงนอนของคุณ อยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง

ที่มา  : Dek-d.com

ข้อพึงรู้สำหรับห้องนอน


ข้อพึงรู้สำหรับห้องนอน       1. วางตำแหน่งของเตียงอย่างระมัดระวัง เพื่อว่าคุณจะได้ไม่นอนในแนวเดียวกับประตู คุณควรจะนอนอยู่ไกลทะแยงออกไปทางด้านขวาเมื่อเปิดประตูเข้ามา เตียงควรจะมองมายังประตูห้องนอนได้อย่างชัดเจน และควรจะอยู่ชิดผนังมากกว่าที่จะเป็นที่โล่งหรือหน้าต่าง
       2. หลีกเลี่ยงตำแหน่งเตียงที่อยู่ใต้คาน หรือตู้ติดผนังที่ยื่นออกมาจากกำแพง
       3. ควรจะมีหัวเตียงสำหรับเตียง อาจจะเป็นหัวเตียงที่ทำจากไม้กลึงมนหรือบุผ้าก็ได้
       4. ถ้าเตียงของคุณหันหลังให้ประตูเข้า วางกระจกเงาไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้าม เพื่อที่ว่าจะได้เห็นถึงผู้ที่กำลังเข้ามาในห้อง
       5. ควรจะมีกระจกเพียงบานเดียวในห้องนอน กระจกรูปทรงกลมจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวเข้าหากันของพลัง
       6. หลีกเลี่ยงเตียงที่มีโครงสร้างเป็นเหล็ก เหล็กจะสะท้อนคลื่นแม่เหล็กที่ส่งมาจากเครื่องไฟฟ้าต่างๆ
       7. เลือกใช้ผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติสำหรับอุปกรณ์ในห้องนอนทุกชิ้นของคุณ
       8. อย่าวางสิ่งใดๆที่เกี่ยวกับงานไว้ในห้องนอน หนังสือหัวเตียงควรจำกัดไว้เพียงหนึ่งถึงสองเล่ม
       9. หลีกเลี่ยงการใช้ไฟจำพวกสปอตไลท์ (Spot Light) หรือไฟตรงตำแหน่งเหนือศรีษะ ตรงบริเวณหัวเตียง การให้แสงสว่างควรเป็นแสงที่นุ่มนวลกระจายมาจากดวงไฟต่างๆทั่วห้อง

ที่มา  : Dek-d.com

ตกแต่งห้องนอนให้น่านอน

การพักผ่อนที่ดีคือการนอน แน่จะทำอย่างไรให้ห้องนอนเราน่าอยู่ล่ะ

          
         การนอนเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นของมนุษย์ แต่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนนอนง่ายกินง่ายเสมอไป หลายคนบอกว่า คนที่นอนหลับได้สนิทแถมยังฝันดีนั้นถือเป็นคนโชคดีเหลือหลาย ขณะที่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องทนทรมานกับโรคนอนไม่หลับ
ห้องนอนเป็นบริเวณที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุดในบ้าน ห้องนอนใหญ่ควรอยู่ห่างไกลประตูทางเข้าหลัก โดยเฉพาะ ถ้าสามารถจัดวางให้อยู่คนละมุมกับทางเข้าหลักจะดีมาก จะทำให้ห้องนอนใหญ่อยู่ห่างไกลจากสิ่งรบกวน ตำแหน่ง ของเตียง เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ผู้พักผ่อนสามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้อง ได้อย่างสะดวก ตามหลักแล้วตำแหน่งของเตียง ควรอยู่บริเวณมุมตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องนอน ปลายเตียงไม่ควรชี้ตรงไปยังประตู ซึ่งจะเป็นลักษณะของการจัดวางหลุมศพของชาวจีนในโกดังเก็บศพ เปรียบเสมือนตำแหน่งของความตาย
        เตียงนอนไม่ควรวางอยู่ใต้คานเปลือย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้พักผ่อนเกิดอาการเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะ อวัยวะที่อยู่ใต้คานนั้น ตัวอย่างเช่น คานเปลือยที่วิ่งผ่านเตียงตรงหน้าอกของผู้พักผ่อนนั้น ผู้พักผ่อนมักจะมีอาการแน่นหน้าอกในขณะนอนหลับ เป็นต้น หัวเตียงควรจะติดผนัง แต่ไม่ควรวางเตียงติดผนังเกินสองด้าน ในกรณีที่ตั้งเตียงลอยๆ โดยไม่สัมผัสกับผนังใดๆ เลย จะส่งผลให้ผู้พักผ่อนรู้สึกไม่มั่นคง และต้องคอยระวังไม่ควรหันปลายเตียงให้ตรงกระจกเงา กระจกเงาที่ปลายเตียงจะสะท้อนพลังเข้าสู่ผู้พักผ่อน ส่งผลให้การพักผ่อนถูกรบกวนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากกระจกเงาในห้องนอนมีมากมาย เราสามารถวางตำแหน่งกระจกเงาให้สามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้องจากบนเตียงได้


เตียงนอนไม่ควรวางข้างตู้ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะส่งผลรบกวนต่อผู้พักผ่อนเหมือนมีคนเฝ้ามองเราอยู่ อย่างไรก็ตาม เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งของสุขภาพหรืออายุยืนยาวซึ่งเชื่อกันว่าเป็น ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
ใครที่อยากหลับฝันดีลองนำ หลักการเหล่านี้ไปจัดห้องนอนของตัวเองก็ดี อย่างน้อยก็จะได้ปรับเปลี่ยนห้องนอนในสไตล์ใหม่ที่ไม่จำเจบ้าง

ที่มา  : Dek-d.com